มนุษย์เมื่อเกิดมาแล้วย่อมหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด
ความแก่เฒ่าและความตายไม่พ้น สิ่งที่ทุกคนปรารถนาคือ การตายอย่างสงบ ไม่เจ็บไม่ปวด
ไม่ทุกข์ทรมาน ปี2555 ฉันเพิ่งมารู้ว่าสิ่งที่ตนเองได้ปฏิบัติมาตลอด
นักวิชาการเขาเรียกว่า การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย
เริ่มจากการเห็นผู้ป่วยมะเร็งที่มารักษาที่ตึกศัลยกรรมหญิง มีความทุกข์ทรมานมาก
ฉันจึง เข้าไปพูดคุย
แสดงความเห็นอกเห็นใจ บางครั้งต้องอดทนอารมณ์หงุดหงิดกราดเกรี้ยว
ไม่มีสูตรสำเร็จในการดูแลผู้ป่วย แต่ละคน
การปฏิบัติถูกปรับเปลี่ยนไปโดยอัตโนมัติ ผู้ป่วยทุกคนอยู่ในความทรงจำของฉันเสมอ
ดังเช่นเรื่องราวของขาว บุญพามารู้จักกัน
ขาว
(นามสมมุติ ) หญิงสาวแม่ลูกสองอายุ 36 ปี ฉันได้รู้จักเธอเดือนตุลาคม 2555 แรกรับเธอมีอาการท้องโต ปวดท้องมาก หายใจเหนื่อยหอบ นอนราบไม่ได้
หน้าตาซูบซีด หลังจากแพทย์เจาะท้องระบายน้ำออก
ท้องยุบลงทันตาเห็น อาการเหนื่อยลดลง พอขยับได้บ้าง
แต่ก็ปวดเมื่อยตามร่างกาย ฉันจึงช่วยนวดแขน นวดหลัง นวดขาให้ เป็นอย่างไร ดีขึ้นไหมคะ ฉันถามขณะนวด
เธอตอบว่า “ดีคะ รู้สึกผ่อนคลาย เบาสบาย”
ฉันถามต่อว่าแล้วรู้สึกหายปวดหรือเปล่า “เธอยิ้มน้อย ๆ พูดว่า ไม่หายปวดหรอกพี่ แต่มันรู้สึกสบายขึ้น”
หลังจากวันนั้นฉันได้เข้าไปพูดคุยกับเธอและแม่ซึ่งอยู่เฝ้าดูแลเกือบตลอดว่า “สายตาแม่แทบไม่เคยห่างหายจากขาว” ฉันรู้สึกได้ถึงความรักของแม่
ความผูกพันของแม่ลูกคู่นี้
บางวันสามีจะพาลูกสาวอายุ 4 ขวบ ลูกชายอายุ 2 ขวบ มาเยี่ยมให้กำลังใจขาว
พี่คะหมอแนะนำจะให้เคมีบำบัด
หนูกลัว ดิฉันจับมือคนไข้แล้วพูดให้กำลังใจทั้งคนไข้และญาติว่า
“พี่จะคอยเป็นกำลังใจและหมั่นไปเยี่ยมบ่อย ๆ นะ
พูดถึงความกลัวทุกคนก็กลัวทั้งนั้นแหละ แต่มาถึงขั้นนี้แล้วเพื่อที่จะได้อยู่กับลูกและแม่หนูต้องอดทนนะคะ”
หลังให้ยาเคมีบำบัด ขาวอาการดีขึ้น กลับไปอยู่บ้านได้ไม่นาน
ต่อมาขาวอาการ ทรุดหนัก
เพราะโรคได้ลุกลามไปอภัยวะอื่นทำให้ ปวดท้อง ท้องแข็ง เหนื่อย กินไม่ได้
อาเจียนทุกครั้งเมื่ออาหารตกถึงกระเพาะ แต่ก็อยากกินทุกอย่าง แม่และสามีก็ซื้อมาให้กิน
บางครั้งกินเข้าปากแล้วบ้วนทิ้งเพื่อจะได้ไม่อาเจียน นอนก็ไม่หลับ น่าสงสารมาก
“หนูไม่ไหวแล้วหนูอยากตายเหลือเกินมันทรมานมากบางครั้งพูดไปร้องไห้ไป ” พี่นวดหลังให้หนูหน่อย
ให้หนูหลับก่อนนะแล้วพี่ค่อยไป แม่หนูนวดก็ไม่เหมือนพี่นวด
แฟนหนูนวดก็ไม่เหมือนพี่นวด ทั้งๆ ที่พี่สอนแล้ว ดิฉันนวดให้ซักพักใหญ่ขาวก็หลับไป
ฉันจึงชวนแม่ออกมาคุยข้างนอกห้อง สีหน้าที่บ่งบอกความทุกข์ใจของแม่ ทำให้ฉันบอกว่า พี่เข้าใจและเห็นใจความรู้สึกทุกข์ทรมานทั้ง 2
คน มีอะไรจะให้พี่ช่วยไหมคะ หนูสงสารลูกเหลือเกินไม่รู้จะทำอย่างไร รู้อย่างนี้หนูไม่ให้หมอทำผ่าตัดหรอกแม่พูดไปร้องไห้ไป ฉันให้เหตุผลไปว่า แต่ถ้าไม่ทำผ่าตัดลูกจะนอนไม่ได้
ท้องก็โต แน่นอึดอัดนอนไม่สบาย ลูกทรมานมากก่อนเจาะท้องใช่ไหม แม่ทำดีที่สุดแล้วอย่าโทษตัวเองเลย แม่ต้องเข้มแข็งนะ
แต่อย่าลืมดูแลตัวเองด้วย ถ้าป่วยลูกจะขาดที่พึ่งนะคะ
วันต่อมาฉันขึ้นไปเยี่ยมอาการอีก
พอเห็นหน้าก็ยกมือสวัสดีทั้งแม่และลูกด้วยความดีใจ ฉันถามว่า วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง ขาวสีหน้าหม่นหมองตอบว่า
เหมือนเดิมแหละพี่กินไม่ได้นอนก็ไม่หลับปวดทรมาน หนูอยากกลับบ้าน ฉันถามต่อ
อยากให้พี่ช่วยอะไรไหมคะที่จะทำให้สบายใจบ้าง แม่และขาวตอบพร้อมกันว่า
อยากทำสังฆทาน ฉันตอบตกลงพรุ่งนี้จะช่วยเตรียมของมาให้ แม่ขาวรีบบอกว่า
เงินหนูไม่มีแต่ไม่เป็นไรเกรงใจพี่เดี๋ยวไปขอเรี่ยไร บอกบุญเพื่อนบ้าน
วันรุ่งขึ้นแม่ก็ได้สังฆทานมา 1 ถัง จริง ๆ
ฉันช่วยเตรียมอาหาร หวาน คาว ดอกไม้ ธูป เทียน มาให้ เจ้าหน้าที่หอผู้ป่วยนิมนต์พระมาให้ 1 รูป หลังจากวันนั้น ฉันขึ้นมาเยี่ยมอีก ขาว...แม้ว่าจะซูบผอมหนังหุ้มกระดูก รีบยกขึ้นนั่ง
ยกมือไหว้ ฉันรับไหว้ เธอมองฉันด้วยสายตาระห้อย หมดอาลัย โดยไม่คาดฝัน ขาวยกแขน 2
ข้างขึ้น แล้วโผเข้ากอดฉัน “ พี่คะ หนูขออนุญาต
เรียกพี่ว่าแม่นะ หนูรักพี่เหมือนแม่คนที่ 2 ของหนูเลย ”
พูดพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น ฉันตกใจพยายามตั้งสติและกลั้นน้ำตาไว้ แล้วโอบกอดตอบ
“คะแม่ก็รักหนูเช่นกันแล้วหนูอย่าลืมไปกอดแม่ผู้ให้กำเนิดหนูด้วยนะ”เพราะแม่เขารักหนูมากดูแลหนูเป็นอย่างดีไม่ได้หลับไม่ได้นอนเห็นไหมคะ
แม่คนนี้ขอให้หนูตั้งสติให้ดีวันที่ลูกจะจากแม่ไปให้ลูกคิดถึงบุญกุศลคุณงามความดีที่หนูทำมาทั้งชีวิตจะได้ไปพบสิ่งดี
ๆ ในภพหน้านะ คะ แต่หนูก็ยังไม่อยากตายอยากทำงานหาเงินให้แม่
ดูแลแม่ให้สบายกว่านี้ หนูยังไม่ได้ทำเลย หนูทำได้คะ เพียงแค่กอด พูดคุย
แสดงความรักกับแม่
ขาวมีสีหน้าดีขึ้น
เหมือนตัดสินใจได้ เธอขอกลับบ้าน ใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายกับแม่ สามี และลุกทั้งสอง
3วัน หลังจากนั้น ขาวก็เสียชีวิตอย่างสงบ
หนึ่งเดือนกว่าที่ฉันได้ไปเยี่ยมเยียนดูแลพุดคุยให้กำลังใจขาว ทำให้ฉันรู้สึกภาคภูมิใจ ประทับใจ ได้เรียนรู้ว่า
1.เมื่อคนรู้ตัวว่าจะตายจะคิดถึงบ้านที่เคยอยู่และอยากกลับบ้าน
2.คิดถึงสิ่งที่ยังไม่ได้ตอบแทนพระคุณ
พ่อ-แม่
ฉะนั้น
ขณะที่มีชีวิตอยู่ก็ควรจะหมั่นสร้างความดี ทำบุญกุศล ทดแทนพระคุณพ่อ-แม่
ก่อนที่จะไม่ได้ทำนะคะ
ผู้เขียน นางสาวนารี
สมโภชน์
บรรณาธิการเรื่องเล่า นางกาญจนา
สรรพคุณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น