ปลายปี 2551 ห้องฉุกเฉินส่งผู้ป่วยวัย 63 ปี มาพบดิฉันโดยรถเข็น เพื่อสอนวิธีการใช้ยาขยายหลอดลมชนิดพ่นสูด ดิฉันได้ทักทายสอบถามอาการของเธอ จากการประเมินเธอยังพ่นยาไม่ถูกวิธี จึงสอนและสาธิตให้เธอทดลองปฏิบัติหลายครั้ง พร้อมทั้งให้กำลังใจจนเธอทำได้อย่างถูกต้อง ดิฉันได้พูดเรื่องโรคคร่าว ๆ ให้เธอรับฟัง ในขณะนั้นเธอยังมีสภาพที่ไม่พร้อมจะรับฟัง หลาย ๆ เรื่องในเวลาอันสั้น แต่ก็ได้แนะนำวิธีการเลิกบุหรี่กับเธอ
ปี 2552 เดือนเมษายน ดิฉันพบเธออีกครั้งที่ห้องให้คำปรึกษา เธอเดินเข้ามากอดดิฉัน แล้วพูดว่าเมื่อคืนฝันเห็นดีใจที่ได้เจอกันอีก เวลาหอบมาก ๆ ฝันเห็นทุกครั้ง เมื่อคืนเหนื่อยหอบมากทั้งคืน เช้านี้ถึงได้มาตรวจที่ห้องฉุกเฉิน ดิฉันยืนงงอยู่ชั่วครู่หนึ่งจึงโอบกอดตอบ ในการพบกันครั้งนี้สังเกตเห็นว่าเวลาพูดเธอมีอาการเหนื่อยหอบมากขึ้น จึงพูดให้กำลังใจจนเธอรู้สึกผ่อนคลาย อาการเหนื่อยหอบลดลง และให้คำแนะนำเพิ่มเติม เกี่ยวกับโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่เป็นอยู่ สอนการบริหารปอด การเลือกอาหารที่เหมาะกับอาการ เทคนิคสงวนพลังงานในการใช้ชีวิตประจำวัน จากการพูดคุยทำให้ทราบว่าเธอใช้ชีวิตอยู่กับสามีเพียงลำพังฐานะยากจน เวลามาโรงพยาบาลแต่ละครั้ง เดินจากบ้านมาถึงถนนเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลกว่า ๆ อาการของเธออยู่ในระยะรุนแรงทำให้รู้สึกเห็นใจเธอมาก จึงตั้งใจและเต็มใจที่จะทบทวนและเสริมพลัง สร้างแรงจูงใจให้มีพลังต่อสู้กับโรคที่เป็นอยู่ ได้เน้นความรู้ในการสังเกตอาการแรกเริ่มที่จะหอบ การใช้ยาพ่นที่ถูกวิธีในตอนที่เริ่มมีอาการ จะได้ไม่ต้องมาห้องฉุกเฉินบ่อย ๆ เพราะหนทางที่มาลำบากมาก ครั้งนี้ดิฉันได้ปรับการใช้หลอดต่อที่ต่อกับยาพ่นสูดโดยเปลี่ยนเป็นชนิดแบบกระสวยเพื่อให้เหมาะสมกับอาการที่เป็นอยู่ พร้อมทั้งเน้นเรื่องเทคนิคในการเลิกบุหรี่ โดยให้เห็นคุณค่าของตัวเอง ใช้ประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านอุปสรรคมานับครั้งไม่ถ้วนและฝ่าฟันผ่านมาได้เป็นพลังกระตุ้น ใช้คติเตือนใจว่าเราต้องทำได้เพื่อสร้างความเข้มแข็งของจิตใจตัวเอง เธอพูดคุยชวนให้ไปที่บ้าน ดิฉันรับปากว่าจะหาโอกาสไปไห้ได้ เพราะว่าสิ่งแวดล้อมมีผลต่อภาวะโรคนี้เป็นอย่างมาก
คืนวันหนึ่งอากาศหนาวเย็นมาก เธอเหนื่อยหอบทั้งคืน เธอพ่นสูดยาขยายหลอดลมหลายครั้งแต่ไม่ดีขึ้นไม่รู้จะไปโรงพยาบาลอย่างไร เหนื่อยจนลืมนึกถึงเบอร์ด่วนห้องฉุกเฉินที่ดิฉันเคยให้ไว้ รวมทั้งเบอร์มือถือที่ดิฉันเคยให้ไว้ก็หายไป จนเวลาสว่างจึงได้อาศัยรถข้างบ้านมาส่งที่โรงพยาบาลเธอบอกว่าตอนนั้นคิดว่าไม่รอดเสียแล้ว หอบมากจนต้องใส่ท่อช่วยหายใจเข้า ICU รู้สึกกระวนกระวายสับสนมาก ต่อมาอาการทุเลาลงมาอยู่ที่หอผู้ป่วยสามัญ ดิฉันทราบข่าวของเธอจากสามีของเธอ ดิฉันนำผลไม้เล็ก ๆ น้อย ๆ ติดมือไปเยี่ยม เธอดูอิดโรยพูดก็มีอาการเหนื่อย มีเสมหะเหนียวข้นจึงสอนเทคนิคในการขจัดเสมหะที่ถูกวิธี พร้อมทั้งให้กำลังใจ ดูแววตาสีหน้าเธอแจ่มใสขึ้น ต่อมาเธอก็ได้กลับบ้านเมื่ออาการทุเลาลง
2 เดือนต่อมา ดิฉันได้พบเธออีกครั้งเมื่อเธอมาตรวจตามนัด และเข้ามาพบดิฉันที่ห้องให้คำปรึกษา คราวนี้เธอดูไม่เหนื่อยหอบ เหมือนครั้งก่อนแล้ว ได้ทบทวนในรายละเอียดที่เคยให้คำแนะนำ พร้อมทั้งประเมินการพ่นยา เธอก็ปฏิบัติได้ถูกต้อง เธอได้กล่าวชวนให้ไปเที่ยวบ้านเธอ เธอบอกว่าบ้านเธอจนมาก ดิฉันบอกกับเธอว่าอยากไปเที่ยวเหมือนกัน ไม่ต้องกลัวรังเกียจ เรื่องฐานะ แล้วเราก็นัดกัน
เมื่อเธอกลับไปแล้ว ดิฉันประสานงานกับสถานีอนามัยที่ใกล้บานของผู้ป่วย เพื่อประสานความร่วมมือในการดูแลผู้ป่วย ในเดือนสิงหาคม 2552 ดิฉันและทีมได้ไปเยี่ยมบ้านของเธอ ซึ่งเป็นกระท่อมเล็ก ๆ สร้างจากวัสดุที่หาได้ในละแวกนั้น ที่พบก่อนคืออุปกรณ์ทำครัววางด้านนอกหน้าบ้าน ด้านข้างบ้านกั้นสังกะสีเป็นที่อาบน้ำ การปลดทุกข์ต้องเข้าไปในป่าใกล้ ๆ เมื่อเข้าไปในบ้าน มีที่นอนวางบนผ้ายางปูกับพื้นดิน มีมุ้งขาด ๆ ปะแล้วปะอีกกางครอบอยู่ เห็นโถส้วมวางคว่ำอยู่ด้านหลัง เธอบอกว่าไม่มีเงินซื้อหิน ปูน ทราย ทำให้ทีมงานรู้ในคราวนี้ว่าบ้านนี้ไม่มีส้วม ในครั้งนี้ไปแนะนำการจัดสิ่งแวดล้อมในที่พัก และทบทวนการดูแลตนเองอย่างละเอียดอีกครั้ง ครั้งนี้ได้ทราบความเป็นอยู่ของสามีที่สูบยาเส้นจัด และได้รู้ว่าสามีและเธอทำอาชีพ เผาถ่าน หาหน่อไม้ เก็บผักขาย อีกครั้งที่เน้นย้ำเรื่องให้เลิกสูบยาเส้น สามีของเธอไม่ค่อยสนใจนัก
หลังจากนั้น ดิฉันจึงกลับไปประสานกับสถานีอนามัยอีกครั้งเพื่อปรึกษาร่วมกัน ในการหาแนวทาง ช่วยเหลือเธอ ทางสถานีอนามัยจึงได้รับความอนุเคราะห์ ความเมตตา จากท่านเจ้าอาวาสวัดซับชะอมที่อยู่ในระหว่างการสร้างอุโบสถ ท่านจึงบริจาคอุปกรณ์ก่อสร้าง หิน ปูน ทราย มาให้เธอในการก่อสร้างส้วม โดยเธอติดต่อให้บุตรชายที่เป็นยามที่ต่างจังหวัดมาก่อสร้างส้วมให้ เธอจึงได้ปลดทุกข์ได้อย่างถูกสุขลักษณะ เธอรู้สึกขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือเธอ
ต่อมาได้ไปเยี่ยมบ้านเธออีก ขณะที่เยี่ยมเธอได้ยินเสียงระเบิดหินเป็นระยะ ๆ เธอบอกว่าบางทีก็ระเบิดกลางวัน บางทีก็ระเบิดกลางคืนชินเสียแล้วถ้าไม่หอบก็จะนอนหลับได้ สักพักก็ได้กลิ่นเผาไหม้ยาเส้น นั่นเป็นกลิ่นจากที่สามีเธอจุดสูบ ดิฉันจึงโน้มน้าวชักจูงให้สามีเธอเลิกสูบยาเส้น โดยตัวเธอเป็นสื่อกลาง และเป็นตัวอย่างที่ดีกับสามีเธอ เพราะเธอบอกว่าเธอเลิกสูบมาได้ 1 เดือนแล้ว วันที่เธอตัดสินใจเลิกสูบแน่นอนคือ วันที่ดิฉันและทีมงานไปเยี่ยมบ้าน ใช้ลูกอม อมแก้ความอยากประมาณ 1 อาทิตย์ ก็ได้ผลเธอดีใจที่ทำได้สำเร็จ เธอบอกว่า ทุกอย่างจะสำเร็จได้เมื่อใจมุ่งมั่น อดทน และตั้งใจจริง
หลังจากนั้นดิฉันร่วมกับนักวิชาการสุขศึกษาของโรงพยาบาล พยาบาลด้านจิตเวช
ประจำแผนกเวชกรรมสังคมได้ประสานความร่วมมือกับสถานีอนามัยซับชะอม
ในโครงการเลิกบุหรี่ โดยจัดกลุ่มในชุมชน เธอเป็นสมาชิกในกลุ่ม ที่เป็นแบบอย่าง
ในการเลิกสูบยาเส้น ขณะนี้มีผู้ที่อยู่ในหมู่บ้านของเธอสามารถเลิกบุหรี่
เพิ่มขึ้นอีก 4 คน เธอรู้สึกภูมิใจที่เธอสามารถเป็นประโยชน์กับผู้อื่นได้
ประจำแผนกเวชกรรมสังคมได้ประสานความร่วมมือกับสถานีอนามัยซับชะอม
ในโครงการเลิกบุหรี่ โดยจัดกลุ่มในชุมชน เธอเป็นสมาชิกในกลุ่ม ที่เป็นแบบอย่าง
ในการเลิกสูบยาเส้น ขณะนี้มีผู้ที่อยู่ในหมู่บ้านของเธอสามารถเลิกบุหรี่
เพิ่มขึ้นอีก 4 คน เธอรู้สึกภูมิใจที่เธอสามารถเป็นประโยชน์กับผู้อื่นได้
การเยี่ยมบ้านครั้งล่าสุด ดูเธอสดชื่นแข็งแรง เดินคล่องแคล่ว ทำงานบ้านได้ไม่หอบ เดินได้ไกล ปลูกผักสวนครัวไว้ขายได้ กินได้นอนหลับดี เธอบอกว่า "ไม่กลับไปสูบยาเส้นอีกแล้ว เลิกได้เบาตัว สมองโล่งสดชื่น เดิมตอนที่สูบอยู่หัวมึนตื้อไปหมด" เธอบอกว่า เมื่อเธอเหนื่อยเธอจะส่งกระแสจิตถึงดิฉันแล้วจะรู้สึกไม่ท้อ เธอบอกว่าสงสัยในชาติที่แล้วคงจะทำบุญร่วมกันมา ก่อนกลับเธอกระซิบข้างหูดิฉันว่า “ถ้าตายอย่าลืมมาเผาฉันนะ” ดิฉันพยักหน้าและกล่าวว่า “วันนั้นคงอีกนาน ถ้าปฏิบัติตัวดีอย่างนี้” ดิฉันและเธอได้สวมกอดกันก่อนจะลาจากกันด้วยความประทับใจ
ดิฉันได้สัมผัสชีวิตของหญิงคนหนึ่งที่ เกิดในครอบครัวแตกแยก ยากจน มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ในวัย 63 ปี มีโรคเรื้อรังและยังต้องหาเลี้ยงชีพดูแลตัวเองและสามี สิ่งที่ทำให้มีชีวิตอยู่มาจนถึงทุกวันนี้คือ "ทุกอย่างจะสำเร็จได้เมื่อใจมุ่งมั่น อดทน และตั้งใจจริง"
ระยะเวลาของการผจญกับโรคที่เป็นอยู่จะนานเพียงไหนไม่มีใครทราบ แต่ปัจจุบันเธอพร้อมเสมอที่จะพบกับมัน สมกับเป็นหญิงแกร่งคนหนึ่งที่ตั้งใจและมุ่งมั่น จนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ผู้เล่า : นางรุ่งฤดี พันธุ์ประเสริฐ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ
โรงพยาบาลพระพุทธบาทสระบุรี
ดีใจจังที่มีพยาบาลที่ทำงานด้วยใจแบบพี่คนสวย สู้ๆๆ น่ะค่ะ
ตอบลบ