การพัฒนาระบบติดตามผู้ป่วยจิตเวช
ผู้มารับบริการ งานจิตเวชของโรงพยาบาลพระพุทธบาท ที่เป็นจิตเภท ปี 2558–2560
มีผู้ป่วย 283, 358 และ 419 ราย ตามลำดับ เห็นได้ว่าผู้ป่วยจิตเภทมีแนวโน้มสูงขึ้น และจากการปฏิบัติงานพบว่ามีผู้ป่วยขาดนัด รับการรักษาไม่ต่อเนื่องมีอาการกำเริบ แสดงอาการก้าวร้าว หูแว่ว หวาดระแวง กลัวคนมาทำร้าย พกอาวุธ เป็นต้น ซึ่งส่งผลต่อความปลอดภัยของ ผู้ปฏิบัติงาน ผู้มารับบริการอีกทั้งครอบครัวก็เกิดความเครียด เบื่อหน่ายเป็นภาระเสียเวลาและรายได้เป็นต้น ในส่วนของชุมชนเกิดการตีตรา ไม่ยอมรับหวาดกลัวพฤติกรรมที่เคยก่อความรุนแรงในชุมชน (serious mental illness with high risk to violence: SMI-V)กลุ่มงานจิตเวชได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้น จึงมีความสนใจพัฒนาระบบการติดตามให้ผู้ป่วยจิตเภทมารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
วัตถุประสงค์
1. เพื่อพัฒนาระบบการติดตามผู้ป่วยจิตเภทให้มารับการรักษาต่อเนื่อง
2. อัตราการขาดนัดไม่เกินร้อยละ 5
วิธีการดำเนินงาน
1. ทำการรวบรวมข้อมูล นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ ปัญหาและอุปสรรค ที่ทำให้ผู้ป่วยขาดนัด ไม่มารับการรักษาอย่างต่อเนื่องพบว่า
- ด้านบุคลากร: มีน้อย
- ด้านวัสดุ อุปกรณ์ ระบบ: ไม่มีระบบการติดตาม
- ด้านผู้ป่วยและญาติ: จากการเก็บสถิติการขาดนัดในปี 2559 พบอัตราการขาดนัด มารับการรักษาไม่ต่อเนื่องและอาการกำเริบ มีจำนวน 31 ราย (คิดเป็นร้อยละ8.65) ซึ่งเป้าหมายตามตัวชี้วัด อัตราการขาดนัดไม่เกินร้อยละ 5 และเมื่อวิเคราะห์ถึงสาเหตุของการขาดนัด ไม่มารับการรักษาต่อเนื่อง พบว่าเกิดจากปฏิเสธการเจ็บป่วย 13 ราย (ร้อยละ41.93) ไม่มีญาติพามา 7 ราย (ร้อยละ22.58)
- มีพฤติกรรมการเสพ 4ราย (ร้อยละ12.90) อาการดีขึ้นแล้ว 6 ราย (ร้อยละ19.35 ) และย้ายที่อยู่ 1 (ร้อยละ3.22) นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ป่วยและญาติไม่เห็นความสำคัญของการนัดหมายมองข้ามในส่วนของเวลาที่สูญเสียไปและเพิ่มภาระงานในการค้นบัตรของกลุ่มงานเวชระเบียน การเตรียมใบยารีเมดของเภสัชกร และ งานการตรวจสอบสิทธิ์เป็นต้น
2. ประชุมร่วมกันวางแผนพัฒนาระบบการติดตามผู้ป่วยขาดนัด โดยมีองค์ประกอบ5 ด้านดังนี้
2.1 ข้อมูล (Data)
- ทำข้อมูลในส่วนของที่อยู่เบอร์โรศัพท์ของผู้ป่วยและญาติให้เป็นปัจจุบัน
- จัดทำทะเบียนผู้ป่วยจิตเภทรายใหม่และผู้ป่วยขาดนัดมีอาการกำเริบและมีพฤติกรรมที่ก่อความรุนแรงในชุมชน (SMI-V) สำหรับติดตามและประเมินผล
2.2 สนับสนุนการดูแลตนเอง (Self)สร้างความตระหนัก โดยการประเมิน ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรค ยา การจัดการสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับภาวะสุขภาพ ส่งเสริมการประกอบอาชีพ การเฝ้าสังเกตอาการตนเอง การรับบริการจากสถานพยาบาลใกล้บ้าน เช่น การขอรับบริการฉีดยา
2.3 สนับสนุนมีส่วนร่วมของครอบครัว (Family) สร้างสัมพันธภาพประเมินบทบาทความสามารถในการดูแลผู้ป่วย ปัจจัยที่ทำให้อาการกำเริบ การยอมรับการเจ็บป่วย การดูแลตนเองของผู้ป่วย ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรค ยา แผนการรักษา ทักษะในการสื่อสาร เพื่อพัฒนาศักยภาพความสามารถของผู้ดูแลในการดำเนินชีวิตประจำวันร่วมกับผู้ป่วย และการเข้าถึงเครือข่ายสาธารณะสุขและชุมชนขอสนับสนุนรถขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ในการมาโรงพยาบาล การส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลจิตเวช
2.4 ดำเนินงานร่วมกันกับเวชกรรมสังคม เครือข่ายสาธารณสุข วัดและชุมชน (Coordination)
- มีการส่งต่อข้อมูลผู้ป่วยจิตเวชให้พื้นที่ที่รับผิดชอบรับทราบสถานการณ์และมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วย
- ติดตามเยี่ยมบ้านในรายที่มีความพฤติกรรมก่อความรุนแรงในชุมชน (serious
mental illness with high risk to violence: SMI-V)
- ช่วยจัดส่งยาให้ผู้ป่วยขาดนัด
- ได้รับความร่วมมือจากพระภิกษุสงฆ์ ในการกระตุ้นเตือนให้ผู้ป่วยจิตเวชมารับการรักษา
- จับคู่บัดดี้ในการมาตรวจตามนัด เนื่องจากผู้ป่วยบางรายญาติลางานไม่ได้ ต้องดูแลผู้สูงอายุ
- มีการ empowerment อาสาสมัครสาธารณสุข ให้มีความตระหนัก มั่นใจในศักยภาพของตนในการดูแลผู้ป่วยจิตเวชในชุมชนเป็นพี่เลี้ยงให้กับครอบครัวในช่วงแรก จากนั้นพัฒนาให้ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถดูแลตนเองได้นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือในมารับยาให้ผู้ป่วยและพาผู้ป่วยมารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
- ผู้ป่วยในเขตพื้นที่อำเภอบ้านหมอ หนองโดน วังม่วงและดอนพุด เมื่ออาการคงที่แล้วส่งต่อให้พื้นที่ดูแลผู้ป่วยต่อไป
2.5 สร้างความตระหนักและให้เห็นความสำคัญของการมาตรวจตามนัด(Aware)
- มีการทำข้อตกลงร่วมกัน สร้างความตระหนัก ให้เห็นความสำคัญ ประโยชน์ที่เกิดขึ้นของการมาตรวจตามนัดและเห็นผลกระทบในด้านอื่นๆที่เกิดขึ้นจากการ ขาดนัด
3. นำไปใช้ในการปฏิบัติงาน
4. ประเมินผล
5. สรุปผลการดำเนินงาน
ผลการดำเนินงาน
หมายเหตุ 7 รายที่ขาดนัดนั้น พบว่ามีสาเหตุ ดังนี้
1. ไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมการเสพได้และหนีออกจากบ้าน ติดต่อไม่ได้ 2 ราย
2. มารดาซึ่งทำหน้าที่รับผิดชอบหลักในการดูแลผู้ป่วยเสียชีวิต อยู่ในช่วงค้นหา care giver
รายใหม่ให้ 1 ราย
3. ย้ายที่อยู่ 4 ราย
การนำไปใช้ในงานและการขยายผล
มีการนำไปใช้ในการเฝ้าระวังและติดตามผู้ป่วยอารมณ์สองขั้ว ซึมเศร้า และผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตจากการใช้สารเสพติด นอกจากนี้ยังใช้ในกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังอื่นๆเพื่อให้ได้รับการดูแลต่อเนื่อง
ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
1.การสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ป่วยและญาติ
2. สนับสนุนการมีส่วนร่วมของผู้ป่วยและญาติในการประเมินและแก้ไขปัญหา อุปสรรคต่างๆที่ทำให้ผู้ป่วยขาดนัด ไม่มารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
3. การค้นหา Care giver ที่สามารถให้การดูแล ป้องกันการกำเริบ ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
4. การทำงานร่วมกันของเครือข่าย อาทิ กลุ่มงานเวชกรรมสังคม ศูนย์บริการสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เครือข่ายจิตเวชชุมชนของอำเภอต่างๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น