วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ยาเดิมผู้ป่วยช่วยโรงพยาบาลประหยัด


ยาเดิมผู้ป่วยช่วยโรงพยาบาลประหยัด

ห้องจ่ายยาผู้ป่วยใน
กลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลพระพุทธบาท

ที่มาของปัญหา / หลักการและเหตุผล
           จากข้อมูลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปี 2555 ระบุว่าในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายด้านยาของประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายด้านการใช้ยาเพิ่มขึ้นจาก 36,506 ล้านบาทในปี 2543 เป็น 98,375 ล้านบาท ในปี 2551 โดยค่าใช้จ่ายด้านยาของประเทศไทยคิดเป็นร้อยละ 46.7 ของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพทั้งหมดของประเทศ ซึ่งสูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วกว่า 2 เท่าตัว และมีแนวโน้มการนำเข้ายาจากต่างประเทศมากขึ้นจากร้อยละ 46 เป็นร้อยละ 65 ในช่วงเวลาเดียวกัน สำหรับโรงพยาบาลพระพุทธบาท มีมูลค่าการใช้ยาทั้งในส่วนผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในรวมกัน ในปีงบประมาณ 2555, 2556 และ 2557 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 167, 176, 177 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งมูลค่าการใช้ยามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นการลดค่าใช้จ่ายด้านยาจะสามารถช่วยลดมูลค่าการใช้ยาและค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพโดยรวมได้ โดยห้องจ่ายยาผู้ป่วยใน กลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลพระพุทธบาทได้มีการจัดทำระบบรับฝากยาเดิมผู้ป่วยที่เข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาล โดยการใช้ยาเดิมผู้ป่วยที่นำมาฝากจัดยาให้ในช่วงที่ผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลและใช้ยาเดิมที่เหลือปรับยาเมื่อแพทย์สั่งยากลับบ้าน ตลอดจนทำการคัดแยกยาเดิมผู้ป่วยที่เหลือเกินจากวันนัดและอยู่ในสภาพดีมาหมุนเวียนใช้ต่อเนื่อง เพื่อเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านยาของโรงพยาบาล
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาหามูลค่ายาเดิมของผู้ป่วยที่เหลือเกินวันนัดจากกระบวนการรับฝากยาเดิมและถูกนำมาหมุนเวียนใช้ต่อเนื่องภายหลังจากที่แพทย์สั่งกลับบ้าน
2. เพื่อให้เกิดแนวทางการจัดการยาเดิมผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มียาเดิมเหลือในการปรับยาแก่ผู้ป่วยเมื่อแพทย์สั่งกลับบ้านอย่างเป็นระบบ ลดปริมาณการจ่ายยาและประหยัดมูลค่าการใช้ยา
วิธีการดำเนินงาน
          เก็บข้อมูลมูลค่ายาจากยาเดิมผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลพระพุทธบาท โดยใช้ระบบการรับฝากยาเดิมของห้องจ่ายยาผู้ป่วยใน กลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลพระพุทธบาท ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2557 – 30 กันยายน 2557
ผลการดำเนินงาน
- จำนวนผู้ป่วยที่ฝากยาเดิม

ปีงบประมาณ
จำนวนผู้ป่วยที่นำยามาฝาก (คน)
2555
(ต.ค.2554-ก.ย.2555)
2,065
2556
(ต.ค.2555-ก.ย.2556)
1,860
2557
(ต.ค.2556-ก.ย.2557)
1,959


มูลค่ายาเดิมผู้ป่วยเหลือใช้ที่ถูกคัดแยกและนำมาใช้ต่อเนื่อง

เดือน
มูลค่า (บาท)
มิถุนายน 2557
26,504.62
กรกฎาคม 2557
7,619.14
สิงหาคม 2557
33,205.67
กันยายน 2557
20,863.81
รวม
88,193.24

การนำไปใช้ในงานประจำ
          1. ใช้ระบบรับฝากยาเดิมสำหรับผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ในการจัดยาให้แก่ผู้ป่วยช่วงรักษาตัวในโรงพยาบาลและปรับยา home medication เมื่อผู้ป่วยกลับบ้าน
          2. เภสัชกรสามารถช่วยตรวจสอบเรื่องยา ทั้งในด้านของความถูกต้องของการใช้ยา ผลข้างเคียงจากการใช้ยาและสภาพของยา ปริมาณยาที่สัมพันธ์กับวันนัด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ป่วย
          3. นำยาเดิมผู้ป่วยที่สภาพดีหลังจากการคัดแยกมาหมุนเวียนใช้ และเก็บมูลค่ายาเดิมผู้ป่วยที่เหลือหลังจากปรับยา home medication เพื่อลดปริมาณการจ่ายยา ตลอดจนลดปริมาณการเบิกยาจากคลังยา

บทเรียนที่ได้รับ/ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
          จากกระบวนการสัมภาษณ์ผู้ป่วยรับใหม่และรับฝากยาเดิมผู้ป่วย ทำให้เภสัชกรสามารถค้นพบปัญหาจากการใช้ยาของผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เช่น รับประทานยาไม่ถูกต้อง รับประทานยาซ้ำซ้อน รับยาจากหลายโรงพยาบาล ยาเหลือไม่พอนัด มียาเก่าเหลือเกินวันนัด ยาหมดอายุ สภาพยาไม่เหมาะสม เป็นต้นระบบการรับฝากยาเดิมสามารถช่วยแก้ปัญหาให้แก่ผู้ป่วยได้ ทำให้ผู้ป่วยใช้ยาได้อย่างถูกต้อง ได้รับยาที่เหมาะสมและเพียงพอตามวันนัด มียาสภาพดีเพื่อให้ในการรักษาโรค อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเป็นระบบที่ถูกทำอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีการคัดแยกยาดังกล่าวกลับมา ทำให้ยาที่เหลือดังกล่าวถูกทิ้งไป ทั้งที่สามารถนำกลับมาให้ใหม่ได้ ทำให้เกิดการสูญเสียค่าใช้จ่ายด้านยา แต่กระบวนการดังกล่าวจำเป็นต้องมีการกระตุ้นให้ผู้ป่วยเห็นความสำคัญของยาเดิมที่เหลืออยู่ และต้องอาศัยความเสียสละและความร่วมมือกันในหน่วยงานในการคัดแยกตลอดจนดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านยาของโรงพยาบาลในระยะยาวได้