วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

รพ.พระพุทธบา่ท ออกหน่วยช่วยผู้ประสพภัยน้ำท่วม ที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี

         โรงพยาบาลพระพุทธบาทได้จัดหน่วยเคลื่อนที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ตำบลหนองแก อำเภอพระพุทธบาท  จังหวัดสระบุรี  ในวันที่ 21 ตุลาตม 2553เวลา 14.00น


สรุปผลการดำเนินงานดังนี้
         1. จำนวนผู้รับบริการตรวจรักษาโรค โดยแพทย์ จำนวน 22 ราย
          2. ผู้รับชุดยาสำเร็จรูป  ประกอบด้วย ยาแก้ไข้  แก้หวัด ยารักษาน้ำกัดเท้า  ยารักษาผื่นคัน ผงเกลือแร่    โลชั่นทากันยุง  จำนวน  270  ราย
         3. สิ่งของบริจาคได้แก่  น้ำดื่ม  อาหารสำเร็จรูป  นมกล่อง  ขนม  จำนวน 1 คันรถบรรทุก  6 ล้อ

การเจ็บป่วยที่พบ  ได้แก่  ไข้เจ็บคอ  ปวดกล้ามเนื้อ  เวียนศีรษะ  อุบัติเหตุจากการขนของ  ผื่นคันตามตัว  ตาอักเสบ   อ่อนเพลียฯ

ความต้องการความช่วยเหลือของประชากร
                        1. ยาทากันยุง
                        2. ไฟฉาย
                        3. น้ำดื่ม
                        4. ยาทาผื่นคันและ น้ำกัดเท้า
                                                                     
         
             ระดับน้ำเพิ่มมากขึ้น หลังจาก 1 สัปดาห์ที่ออกหน่วยครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 ต.ค.53  
ประชาชนต้องหนีน้ำ ทิ้งบ้านเรือน ที่จมอยู่ในน้ำขึ้นมาอาศัยอยู่บนถนน โดยใช้รถไถนาชนิดเล็กเป็นที่อาศัยหลับนอนแทนบ้าน     ใช้เรือพายแทนการเดินเท้าสัญจร 
             การออกหน่วยช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมที่ตำบลหนองแก รอบที่ 2 นี้ เมื่อวันที่  28 ตุลาคม 2553     ท่านผู้อำนวยการของเราลงตรวจเยี่ยมและมอบของช่วยเหลือประชาชน แพทย์หญิงนุชรินทร์  ตรวจสุขภาพร่างกาย  ทีมงานเวชกรรมสังคม บริการตรวจวัดความดันโลหิตเบื้องต้นและแจกยาสามัญและสิ่งของที่จำเป็น  ทีมเภสัชกรช่วยจัดแจกยาเฉพาะโรค ทีมสุขภาพจิตและสุขศึกษาให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต ทำให้ประชาชนรู้สึกดีขึ้นมีกำลังใจที่จะสู้กับภัยน้ำท่วมต่อไป



                  นางวรรณพร   สุขสุวรรณ์     ผู้รายงาน

วันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

พลังใจเสริม เพิ่มคุณภาพชิวิต พิชิตโรคถุงลมโป่งพอง

ปลายปี 2551 ห้องฉุกเฉินส่งผู้ป่วยวัย 63 ปี มาพบดิฉันโดยรถเข็น   เพื่อสอนวิธีการใช้ยาขยายหลอดลมชนิดพ่นสูด ดิฉันได้ทักทายสอบถามอาการของเธอ   จากการประเมินเธอยังพ่นยาไม่ถูกวิธี      จึงสอนและสาธิตให้เธอทดลองปฏิบัติหลายครั้ง  พร้อมทั้งให้กำลังใจจนเธอทำได้อย่างถูกต้อง     ดิฉันได้พูดเรื่องโรคคร่าว ๆ ให้เธอรับฟัง   ในขณะนั้นเธอยังมีสภาพที่ไม่พร้อมจะรับฟัง หลาย ๆ เรื่องในเวลาอันสั้น แต่ก็ได้แนะนำวิธีการเลิกบุหรี่กับเธอ

           ปี 2552 เดือนเมษายน  ดิฉันพบเธออีกครั้งที่ห้องให้คำปรึกษา เธอเดินเข้ามากอดดิฉัน แล้วพูดว่าเมื่อคืนฝันเห็นดีใจที่ได้เจอกันอีก เวลาหอบมาก ๆ ฝันเห็นทุกครั้ง เมื่อคืนเหนื่อยหอบมากทั้งคืน เช้านี้ถึงได้มาตรวจที่ห้องฉุกเฉิน   ดิฉันยืนงงอยู่ชั่วครู่หนึ่งจึงโอบกอดตอบ    ในการพบกันครั้งนี้สังเกตเห็นว่าเวลาพูดเธอมีอาการเหนื่อยหอบมากขึ้น    จึงพูดให้กำลังใจจนเธอรู้สึกผ่อนคลาย  อาการเหนื่อยหอบลดลง  และให้คำแนะนำเพิ่มเติม เกี่ยวกับโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่เป็นอยู่    สอนการบริหารปอด  การเลือกอาหารที่เหมาะกับอาการ   เทคนิคสงวนพลังงานในการใช้ชีวิตประจำวัน  จากการพูดคุยทำให้ทราบว่าเธอใช้ชีวิตอยู่กับสามีเพียงลำพังฐานะยากจน    เวลามาโรงพยาบาลแต่ละครั้ง เดินจากบ้านมาถึงถนนเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลกว่า ๆ  อาการของเธออยู่ในระยะรุนแรงทำให้รู้สึกเห็นใจเธอมาก  จึงตั้งใจและเต็มใจที่จะทบทวนและเสริมพลัง สร้างแรงจูงใจให้มีพลังต่อสู้กับโรคที่เป็นอยู่    ได้เน้นความรู้ในการสังเกตอาการแรกเริ่มที่จะหอบ  การใช้ยาพ่นที่ถูกวิธีในตอนที่เริ่มมีอาการ   จะได้ไม่ต้องมาห้องฉุกเฉินบ่อย ๆ เพราะหนทางที่มาลำบากมาก   ครั้งนี้ดิฉันได้ปรับการใช้หลอดต่อที่ต่อกับยาพ่นสูดโดยเปลี่ยนเป็นชนิดแบบกระสวยเพื่อให้เหมาะสมกับอาการที่เป็นอยู่   พร้อมทั้งเน้นเรื่องเทคนิคในการเลิกบุหรี่ โดยให้เห็นคุณค่าของตัวเอง  ใช้ประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านอุปสรรคมานับครั้งไม่ถ้วนและฝ่าฟันผ่านมาได้เป็นพลังกระตุ้น   ใช้คติเตือนใจว่าเราต้องทำได้เพื่อสร้างความเข้มแข็งของจิตใจตัวเอง     เธอพูดคุยชวนให้ไปที่บ้าน ดิฉันรับปากว่าจะหาโอกาสไปไห้ได้  เพราะว่าสิ่งแวดล้อมมีผลต่อภาวะโรคนี้เป็นอย่างมาก  
         
          คืนวันหนึ่งอากาศหนาวเย็นมาก   เธอเหนื่อยหอบทั้งคืน   เธอพ่นสูดยาขยายหลอดลมหลายครั้งแต่ไม่ดีขึ้นไม่รู้จะไปโรงพยาบาลอย่างไร     เหนื่อยจนลืมนึกถึงเบอร์ด่วนห้องฉุกเฉินที่ดิฉันเคยให้ไว้ รวมทั้งเบอร์มือถือที่ดิฉันเคยให้ไว้ก็หายไป จนเวลาสว่างจึงได้อาศัยรถข้างบ้านมาส่งที่โรงพยาบาลเธอบอกว่าตอนนั้นคิดว่าไม่รอดเสียแล้ว หอบมากจนต้องใส่ท่อช่วยหายใจเข้า ICU รู้สึกกระวนกระวายสับสนมาก ต่อมาอาการทุเลาลงมาอยู่ที่หอผู้ป่วยสามัญ ดิฉันทราบข่าวของเธอจากสามีของเธอ    ดิฉันนำผลไม้เล็ก ๆ น้อย ๆ ติดมือไปเยี่ยม   เธอดูอิดโรยพูดก็มีอาการเหนื่อย   มีเสมหะเหนียวข้นจึงสอนเทคนิคในการขจัดเสมหะที่ถูกวิธี    พร้อมทั้งให้กำลังใจ  ดูแววตาสีหน้าเธอแจ่มใสขึ้น  ต่อมาเธอก็ได้กลับบ้านเมื่ออาการทุเลาลง

2 เดือนต่อมา ดิฉันได้พบเธออีกครั้งเมื่อเธอมาตรวจตามนัด   และเข้ามาพบดิฉันที่ห้องให้คำปรึกษา คราวนี้เธอดูไม่เหนื่อยหอบ เหมือนครั้งก่อนแล้ว ได้ทบทวนในรายละเอียดที่เคยให้คำแนะนำ พร้อมทั้งประเมินการพ่นยา เธอก็ปฏิบัติได้ถูกต้อง เธอได้กล่าวชวนให้ไปเที่ยวบ้านเธอ เธอบอกว่าบ้านเธอจนมาก  ดิฉันบอกกับเธอว่าอยากไปเที่ยวเหมือนกัน ไม่ต้องกลัวรังเกียจ เรื่องฐานะ   แล้วเราก็นัดกัน 

          เมื่อเธอกลับไปแล้ว ดิฉันประสานงานกับสถานีอนามัยที่ใกล้บานของผู้ป่วย เพื่อประสานความร่วมมือในการดูแลผู้ป่วย  ในเดือนสิงหาคม 2552 ดิฉันและทีมได้ไปเยี่ยมบ้านของเธอ  ซึ่งเป็นกระท่อมเล็ก ๆ  สร้างจากวัสดุที่หาได้ในละแวกนั้น   ที่พบก่อนคืออุปกรณ์ทำครัววางด้านนอกหน้าบ้าน  ด้านข้างบ้านกั้นสังกะสีเป็นที่อาบน้ำ  การปลดทุกข์ต้องเข้าไปในป่าใกล้ ๆ    เมื่อเข้าไปในบ้าน   มีที่นอนวางบนผ้ายางปูกับพื้นดิน  มีมุ้งขาด ๆ ปะแล้วปะอีกกางครอบอยู่   เห็นโถส้วมวางคว่ำอยู่ด้านหลัง  เธอบอกว่าไม่มีเงินซื้อหิน ปูน ทราย  ทำให้ทีมงานรู้ในคราวนี้ว่าบ้านนี้ไม่มีส้วม ในครั้งนี้ไปแนะนำการจัดสิ่งแวดล้อมในที่พัก  และทบทวนการดูแลตนเองอย่างละเอียดอีกครั้ง   ครั้งนี้ได้ทราบความเป็นอยู่ของสามีที่สูบยาเส้นจัด  และได้รู้ว่าสามีและเธอทำอาชีพ เผาถ่าน หาหน่อไม้ เก็บผักขาย   อีกครั้งที่เน้นย้ำเรื่องให้เลิกสูบยาเส้น  สามีของเธอไม่ค่อยสนใจนัก 
          
           หลังจากนั้น  ดิฉันจึงกลับไปประสานกับสถานีอนามัยอีกครั้งเพื่อปรึกษาร่วมกัน ในการหาแนวทาง ช่วยเหลือเธอ ทางสถานีอนามัยจึงได้รับความอนุเคราะห์ ความเมตตา จากท่านเจ้าอาวาสวัดซับชะอมที่อยู่ในระหว่างการสร้างอุโบสถ  ท่านจึงบริจาคอุปกรณ์ก่อสร้าง หิน ปูน ทราย มาให้เธอในการก่อสร้างส้วม โดยเธอติดต่อให้บุตรชายที่เป็นยามที่ต่างจังหวัดมาก่อสร้างส้วมให้ เธอจึงได้ปลดทุกข์ได้อย่างถูกสุขลักษณะ เธอรู้สึกขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือเธอ


ต่อมาได้ไปเยี่ยมบ้านเธออีก ขณะที่เยี่ยมเธอได้ยินเสียงระเบิดหินเป็นระยะ ๆ   เธอบอกว่าบางทีก็ระเบิดกลางวัน บางทีก็ระเบิดกลางคืนชินเสียแล้วถ้าไม่หอบก็จะนอนหลับได้    สักพักก็ได้กลิ่นเผาไหม้ยาเส้น นั่นเป็นกลิ่นจากที่สามีเธอจุดสูบ ดิฉันจึงโน้มน้าวชักจูงให้สามีเธอเลิกสูบยาเส้น   โดยตัวเธอเป็นสื่อกลาง และเป็นตัวอย่างที่ดีกับสามีเธอ เพราะเธอบอกว่าเธอเลิกสูบมาได้ 1 เดือนแล้ว วันที่เธอตัดสินใจเลิกสูบแน่นอนคือ วันที่ดิฉันและทีมงานไปเยี่ยมบ้าน ใช้ลูกอม อมแก้ความอยากประมาณ 1 อาทิตย์ ก็ได้ผลเธอดีใจที่ทำได้สำเร็จ เธอบอกว่า ทุกอย่างจะสำเร็จได้เมื่อใจมุ่งมั่น อดทน และตั้งใจจริง

          หลังจากนั้นดิฉันร่วมกับนักวิชาการสุขศึกษาของโรงพยาบาล พยาบาลด้านจิตเวช
ประจำแผนกเวชกรรมสังคมได้ประสานความร่วมมือกับสถานีอนามัยซับชะอม
ในโครงการเลิกบุหรี่  โดยจัดกลุ่มในชุมชน    เธอเป็นสมาชิกในกลุ่ม ที่เป็นแบบอย่าง
ในการเลิกสูบยาเส้น    ขณะนี้มีผู้ที่อยู่ในหมู่บ้านของเธอสามารถเลิกบุหรี่
เพิ่มขึ้นอีก 4 คน    เธอรู้สึกภูมิใจที่เธอสามารถเป็นประโยชน์กับผู้อื่นได้

         การเยี่ยมบ้านครั้งล่าสุด   ดูเธอสดชื่นแข็งแรง   เดินคล่องแคล่ว ทำงานบ้านได้ไม่หอบ เดินได้ไกล ปลูกผักสวนครัวไว้ขายได้ กินได้นอนหลับดี   เธอบอกว่า  "ไม่กลับไปสูบยาเส้นอีกแล้ว    เลิกได้เบาตัว   สมองโล่งสดชื่น เดิมตอนที่สูบอยู่หัวมึนตื้อไปหมด"    เธอบอกว่า  เมื่อเธอเหนื่อยเธอจะส่งกระแสจิตถึงดิฉันแล้วจะรู้สึกไม่ท้อ   เธอบอกว่าสงสัยในชาติที่แล้วคงจะทำบุญร่วมกันมา     ก่อนกลับเธอกระซิบข้างหูดิฉันว่า ถ้าตายอย่าลืมมาเผาฉันนะ ดิฉันพยักหน้าและกล่าวว่า  วันนั้นคงอีกนาน ถ้าปฏิบัติตัวดีอย่างนี้    ดิฉันและเธอได้สวมกอดกันก่อนจะลาจากกันด้วยความประทับใจ

          ดิฉันได้สัมผัสชีวิตของหญิงคนหนึ่งที่ เกิดในครอบครัวแตกแยก  ยากจน  มีอาชีพรับจ้างทั่วไป  ในวัย 63 ปี มีโรคเรื้อรังและยังต้องหาเลี้ยงชีพดูแลตัวเองและสามี    สิ่งที่ทำให้มีชีวิตอยู่มาจนถึงทุกวันนี้คือ  "ทุกอย่างจะสำเร็จได้เมื่อใจมุ่งมั่น อดทน และตั้งใจจริง"

          ระยะเวลาของการผจญกับโรคที่เป็นอยู่จะนานเพียงไหนไม่มีใครทราบ    แต่ปัจจุบันเธอพร้อมเสมอที่จะพบกับมัน   สมกับเป็นหญิงแกร่งคนหนึ่งที่ตั้งใจและมุ่งมั่น จนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  


                                      ผู้เล่า : นางรุ่งฤดี     พันธุ์ประเสริฐ      พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ
                                                                               โรงพยาบาลพระพุทธบาทสระบุรี