1. ชื่อผลงาน : มองคนไข้ด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์
2. คำสำคัญ : Holistic care, Humanized health care
3. สรุปผลงานโดยย่อ :
การดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะเจ็บป่วย (illness) ด้วยโรคไตเรื้อรัง โดยใช้มิติที่เรียกว่า Holistic care หรือ Humanized health care เป็นการดูแลที่เราต้องมองเห็นสิ่งที่เป็นองค์รวมทั้งหมดของผู้ป่วย ต้องมองผู้ป่วยให้เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ต้องสามารถที่จะสัมผัสทุกข์ และคิดบำบัดทุกข์ให้ผู้ป่วยควบคู่ไปกับการรักษาโรค(disease) ด้วย จึงจะทำให้ผู้ป่วยสามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุข
4. ชื่อและที่อยู่ขององค์กร : หน่วยไตเทียม โรงพยาบาลพระพุทธบาท สระบุรี
5. สมาชิกทีม : อายุรแพทย์โรคไต พยาบาลไตเทียม และบุคลากรหน่วยไตเทียม
6. เป้าหมาย : ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถดำรงชีพในสังคมได้อย่างเหมาะสมสภาพ
7. ปัญหาและสาเหตุโดยย่อ :
โรคไตเรื้อรังเป็นโรคซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ มีเพียงการรักษาแบบประคับประคองเพื่อ
ชะลอความก้าวหน้าของโรค (Slow progression) ในผู้ป่วยซึ่งเป็นระยะเริ่มต้นหรือปานกลาง ส่วนผู้ป่วย
ที่เป็นไตวายระยะสุดท้ายต้องเข้ารักษาโดยการล้างไตทางช่องท้อง และการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ด้วยเหตุนี้ทำให้ผู้ป่วยต้องวนเวียนเข้ารับการรักษาอยู่บ่อยๆ และทำให้เกิดปัญหารวมถึงผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก จนผู้ป่วยไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ด้วยตนเอง
ดังเช่นผู้ป่วยชายรายหนึ่ง ประกอบอาชีพรับจ้าง ตรวจพบว่าเป็นไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย
เมื่อเดือนธันวาคม 2544 ขณะอายุ 30 ปี นายจ้างได้พาไปตรวจและฟอกเลือดที่โรงพยาบาลเอกชน 1 ครั้งจากนั้นได้ให้ผู้ป่วยออกจากงานโดยอ้างว่า เจ็บป่วยไม่สามารถทำงานได้ ผู้ป่วยจึงได้กลับมารับรักษาที่โรงพยาบาลพระพุทธบาทอีกครั้ง ได้ให้การรักษาโดยการฟอกเลือดเมื่อ 2 มกราคม 2545 แต่ยังมีปัญหาในเรื่องสิทธิ์การรักษาเพราะต้องรออนุมัติสิทธิ์ฟอกเลือดจากสำนักงานประกันสังคม ทำให้ผู้ป่วยสับสนไม่สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ รู้สึกวิตกกังวล ท้อแท้ สิ้นหวัง ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป หลังจากนั้นประมาณ 1 ปีภรรยาของผู้ป่วยหนีจากไปพร้อมทิ้งบุตรชายอายุ3 ปีไว้ให้ผู้ป่วยเลี้ยงดู ทำให้ผู้ป่วยเกิดความวิตกกังวลเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
เมื่อเดือนธันวาคม 2544 ขณะอายุ 30 ปี นายจ้างได้พาไปตรวจและฟอกเลือดที่โรงพยาบาลเอกชน 1 ครั้งจากนั้นได้ให้ผู้ป่วยออกจากงานโดยอ้างว่า เจ็บป่วยไม่สามารถทำงานได้ ผู้ป่วยจึงได้กลับมารับรักษาที่โรงพยาบาลพระพุทธบาทอีกครั้ง ได้ให้การรักษาโดยการฟอกเลือดเมื่อ 2 มกราคม 2545 แต่ยังมีปัญหาในเรื่องสิทธิ์การรักษาเพราะต้องรออนุมัติสิทธิ์ฟอกเลือดจากสำนักงานประกันสังคม ทำให้ผู้ป่วยสับสนไม่สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ รู้สึกวิตกกังวล ท้อแท้ สิ้นหวัง ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป หลังจากนั้นประมาณ 1 ปีภรรยาของผู้ป่วยหนีจากไปพร้อมทิ้งบุตรชายอายุ3 ปีไว้ให้ผู้ป่วยเลี้ยงดู ทำให้ผู้ป่วยเกิดความวิตกกังวลเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
8. การเปลี่ยนแปลง :
ในการดูแลผู้ป่วยรายนี้นอกจากภาวะด้านร่างกายแล้ว ด้านจิตใจจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
การให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรค การปฏิบัติตัวเพื่อดูแลตนเองอย่างถูกต้อง ทำให้ผู้ป่วยยอมรับในความเจ็บป่วยที่เผชิญอยู่ สร้างพลังใจให้ผู้ป่วยพร้อมที่จะมีชีวิตต่อไป โดยใช้กลุ่มผู้ป่วยและญาติช่วยสนับสนุนให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์ของแต่ละคน ทำให้ผู้ป่วยสามารถปรับตัวต่อความเจ็บป่วยและมีกำลังใจที่จะประกอบอาชีพรับจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ
การให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรค การปฏิบัติตัวเพื่อดูแลตนเองอย่างถูกต้อง ทำให้ผู้ป่วยยอมรับในความเจ็บป่วยที่เผชิญอยู่ สร้างพลังใจให้ผู้ป่วยพร้อมที่จะมีชีวิตต่อไป โดยใช้กลุ่มผู้ป่วยและญาติช่วยสนับสนุนให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์ของแต่ละคน ทำให้ผู้ป่วยสามารถปรับตัวต่อความเจ็บป่วยและมีกำลังใจที่จะประกอบอาชีพรับจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ
มีกำลังใจที่จะต่อสู้ต่อไป ได้สนับสนุนให้ผู้ป่วยประกอบอาชีพเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทแห่งหนึ่ง และได้เข้าเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลในเวลาต่อมา โดยมีเพื่อนบ้านคอยช่วยดูแลบุตรชายขณะที่ผู้ป่วยมาทำงานด้วย
เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2551 ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายไตที่โรงพยาบาลศิริราช ทำให้ภาระในเรื่องความเจ็บป่วยน้อยลง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
9. การวัดผลและความเปลี่ยนแปลง :
ปัจจุบันผู้ป่วยอายุ 37 ปี ทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลพระพุทธบาท เป็นผู้ที่มีอุปนิสัยดี เป็นที่รักใคร่ของผู้บังคับบัญชารวมถึงเพื่อนร่วมงานทุกๆ คน พักอาศัยอยู่ในบ้านพักของโรงพยาบาลพร้อมบุตรชายอายุ 9 ปี ศึกษาอยู่ชั้นประถมปีที่ 3
10. บทเรียนที่ได้รับ :
ในการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังนั้นหากผู้ให้บริการมุ่งความสนใจไปที่เรื่องโรค หรือทางกายอย่างเดียวก็ไม่อาจจะเยียวยาให้ผู้ป่วยหายจากความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวงได้ การดูแลที่เรียกว่า Holistic care หรือ Humanized health care นั้นนับเป็นมิติใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเหมาะสมตามสภาพที่ควรจะเป็น ซึ่งอาศัยหลักในการดูแลดังนี้
1. การมองเห็นองค์รวมของผู้ป่วย ไม่ได้มองแค่ว่าผู้ป่วยมีภาวะซีด ผู้ป่วยมีแผลที่ขา หรือผู้ป่วย
เป็นโรคไตเท่านั้น ต้องมองต่อไปอีกว่าผู้ป่วยมีความรู้สึกอย่างไร ต้องการอะไร ความหวังของผู้ป่วยเป็นอย่างไร
2. การมองเห็นผู้ป่วยเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ไม่มองแค่ว่าผู้ป่วยซีดต้องการมารับเลือด ผู้ป่วยเป็นแผลต้องการมาให้ทำแผล ผู้ป่วยโรคไตต้องการมาฟอกเลือด และผู้ป่วยมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามเราเท่านั้น การเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาตนเอง จะช่วยให้เรามองเห็นผู้ป่วยเป็นมนุษย์คนหนึ่งไม่ใช่เป็นเพียงผู้ป่วยอย่างเดียว
3. การมองเห็นความทุกข์ของผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์ภายในใจของผู้ป่วยเอง หรือบางครั้งกฎเกณฑ์ มาตรฐาน และระบบต่างๆ ที่ผู้ป่วยเผชิญอยู่อาจก่อให้เกิดความทุกข์อย่างมหันต์ การรับฟังผู้ป่วยพูด หรือระบายความรู้สึกภายในใจ จะช่วยให้เราสามารถค้นหาหรือสัมผัสถึงความทุกข์ของผู้ป่วยและสามารถหาทางบำบัดทุกข์ไปพร้อมๆ กับการรักษาโรคด้วย
11. การติดต่อกับทีมงาน : หน่วยงานไตเทียม โรงพยาบาลพระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี 18120 โทรศัพท์ 036 -266111
ยินดีกับข้อค้นพบ
ตอบลบขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ช่วยพยุงสังคมที่เหนื่อยล้าให้มีพลัง
ลุกขึ้นต่อสู้
ขอเป็นคนหนึ่งที่เติมพลังใจ ชื่นชมพลังความคิด และยินดีนำข้อคิดไปใช้เมื่อมีโอกาส